7 สัญญาณบ่งชี้ จีนเอาจริงลดโลกร้อน

พลังงานแสงอาทิตย์ และรถไฟความเร็วสูง เหล่านี้คือส่วนหนึ่งของแผนต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ที่จีนตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านการใช้พลังงานสะอาดในอนาคต

เป็นเวลา 2 ปีแล้วหลังประธานาธิบดีบารัก โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศความร่วมมือระหว่างสองประเทศในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ซึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมาพรรครีพับลิกัน และพรรคอนุรักษ์นิยมของสหรัฐยังคงวิพากษ์วิจารณ์จีนเรื่อยมาเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ Stephen Moore ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็กล่าวว่าแนวทางการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของสหรัฐกำลังดำเนินการไปอย่างไร้จุดหมาย โดยเขากล่าวว่า ทุกๆครั้งที่สหรัฐปิดโรงงานถ่านหิน 1 โรง จีนจะสร้างเพิ่มขึ้นอีก 10 โรง

อย่างไรก็ตามใช่ว่าคำพูดของ Moore จะถูกต้องทั้งหมดซะทีเดียว จากรายงานพบว่าปริมาณการลดการใช้ถ่านหิน และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในจีนนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 3.7% จากเดิมที่อยู่เพียง 1-2% ในปี 2014 นอกจากนั้นจีนยังแสดงออกถึงความมุ่งมั่นในการที่จะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และใช้พลังงานสะอาด ซึ่งเหล่านี้คือสัญญาณดี 7 ประการที่จีนกำลังทำเพื่อโลกของเราในอนาคต

1. จำกัดปริมาณการใช้ถ่านหิน

หลังการประกาศความร่วมมือกับโอบามาเมื่อปี 2014 จีนได้ออกกลยุทธ์การใช้พลังงานซึ่งควบคุมปริมาณการใช้ถ่านหินจนถึงปี 2020 ลดกำลังการผลิต รวมถึงออกกฏงดการเปิดเหมืองถ่านหินแหล่งใหม่ยาว 3 ปี เหล่านี้เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยลดปริมาณการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และต่อสู้กับการปนเปื้อนของมลพิษในอากาศ ซึ่งกำลังเป็นวิกฤติปัญหาสุขภาพของกุงปักกิ่ง และมณฑลหูหนาน ในปัจจุบัน

2. การแลกเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์

ในปีหน้าจีนเตรียมทเปิดตัวตลาดคาร์บอนสากลที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่การปล่อยคาร์บอนเช่นถ่านหิน และโรงไฟฟ้า โปรแกรมการซื้อขายคาร์บอนนี้จะเกิดขึ้นใน 5 เมืองใหญ่ จากทั้ง 5 มณฑลของจีน

ทั้งนี้การค้าขายแลกเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นวิธีการหนึ่งที่ใช้แรงจูงใจทางการเงินเพื่อให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยกำหนดปริมาณคาร์บอนที่ห้ามเกินขึ้นมา หากโรงงานอุตสาหกรรมไหนผลิตเกินสิทธิ ต้องซื้อสิทธิมาจากโรงงานที่ผลิตได้น้อยกว่า มิฉะนั้นแล้วจะเจอกับบทลงโทษร้ายแรง

3. รถยนต์พลังงานสะอาด

จีนเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นการลดมลพิษจากรถยนต์ ส่งผลดีพอๆกับการลดมลพิษจากเหมืองถ่านหิน รัฐบาลปักกิ่งประมาณการณ์ว่า 1 ใน 3 ของหมอกควันในเมืองมาจากรถยนต์ ประเทศจีนเต็มไปด้วยรถยนต์รุ่นเก่า ดังนั้นการจูงใจให้คนจีนหันมาใช้รถยนต์ไฮบริด และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รวมถึงมาตรการบังคับใช้น้ำมันรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนเช่นกัน

4. การสร้างที่พักอาศัยให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อ 2 ปีที่แล้วจีนเริ่มใช้มาตราการกำหนดโควตาการใช้พลังงานแก่อาคารที่พักอาศัย โดยโควตาจะแตกต่างกันไปตามสถานที่ตั้ง และวัตถุประสงค์ของการใช้งานอาคารนั้นๆ ซึ่งจากการสำรวจพบว่าสัดส่วนการใช้พลังงานในอาคารต่างๆนั้นสูงถึง 41% จากการใช้พลังงานทั่วโลกเลยทีเดียว

5. สร้างพลังงานทดแทน

เมื่อจีนลดปริมาณการใช้ถ่านหิน รัฐบาลจึงหันมาพัฒนาพลังงานสะอาดอย่างลม และแสงอาทิตย์แทน ด้วยความหวังที่จะเป็นประเทศผู้นำการใช้พลังงานสะอาดในอนาคต การลงทุนในพลังงานสะอาดเหล่านี้เพิ่มขึ้นจาก 39 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ เป็น 111 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐภายในเวลาแค่ 5 ปี ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของการใช้พลังงานแสงอาทิตย์นั้นมีถึง 168 เท่า ซึ่งจากการประชุมที่ปารีสเมื่อปีก่อน จีนให้คำมั่นว่าร้อยละ 20 ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมดในประเทศจะต้องมาจากพลังงานสะอาดภายในปี 2030

6. การสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์

หนึ่งในสิ่งที่หลายคนไม่ทราบก็คือ โรงงานปฏิกรณ์นิวเคลียร์นั้นปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าโรงไฟฟ้าเสียอีก เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จีนเพิ่งจะสร้างโรงงานเพิ่มอีกถึง รวมถึง 60 แห่งในช่วงสิบปีมานี้

7. การรสร้างรถไฟความเร็วสูง

เมื่อเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น ประชาชนก็จะเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เพื่อจำกัดคาร์บอนไดออกไซด์จากการเดินทางจีนจึงได้สร้างรถไฟความเร็วสูงขึ้น ที่มีแผนจะรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 2.7 ล้านคนต่อวัน

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

1.       โพสต์ทูเดย์, 2559, Nt1 – 7 สัญญาณบ่งชี้ จีนเอาจริงลดโลกร้อน [online], Available: http://www.posttoday.com/world/news/457719 [30 กันยายน 2559].

Write a comment

seven − three =