ความแตกต่างระหว่าง คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) กับ สิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Allowance)

#คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) กับ #สิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Allowance) ต่างกันอย่างไร??

บทความโดย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)

หลายคนอาจยังสับสนระหว่างคำว่า “คาร์บอนเครดิต” และ “สิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก” ว่ามันต่างกันอย่างไร ซึ่งทั้ง 2 คำนี้ถือเป็นสิ่งที่สามารถนำไปซื้อขายในตลาดคาร์บอนได้ทั้งคู่ แต่การได้มาซึ่งสินค้าที่เราเรียกว่าคาร์บอนเครดิตหรือสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมีกระบวนการขั้นตอนแตกต่างกัน วัตถุประสงค์ในการใช้ก็ไม่เหมือนกัน ราคาซื้อขายจะไม่เท่ากัน เช่น ราคาสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือภาษาอังกฤษใช้คำว่า Allowance ภายใต้ระบบซื้อขายสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสหภาพยุโรป (EU-ETS) ราคาในเดือนมิ.ย. 2566 อยู่ระหว่าง 80-90 ยูโร/tCO2eq โดยเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 66 ราคาขึ้นไปแตะสูงสุดอยู่ที่ 92.82 ยูโรต่อตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่าหรือต่อ 1 Allowance (ที่มา: European Energy Exchange AG (eex), CarbonPulse CME Group) ส่วนราคาคาร์บอนเครดิตจากตลาดภาคสมัครใจในต่างประเทศ เช่น โครงการภาคป่าไม้ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 5.80 US$/tCO2eq หรือคาร์บอนเครดิตจากโครงการภาคพลังงาน 2.26 US$/tCO2eq (ที่มา: Ecosystem Marketplace, a Forest Trends Initiative) ส่วนราคาคาร์บอนเครดิตจากตลาดภาคสมัครใจในประเทศไทย ราคาเฉลี่ยของคาร์บอนเครดิต TVERs จากทุกประเภทโครงการที่มีการซื้อขายกันในปีงบประมาณ 2566 อยู่ที่ 87.68 บาทต่อตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า โดยโครงการที่มีการซื้อขายกันล่าสุดในเดือนมิ.ย. 2566 คือ โครงการพลังงานทดแทนประเภทชีวมวล ราคาอยู่ที่ 75 บาท/tCO2eq และโครงการการจัดการของเสียประเภททำปุ๋ยหมัก ราคาอยู่ที่ 260 บาท/tCO2eq

#คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) คือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลด/กักเก็บ ได้จากการทำโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบบ “Project Base” หรือในระดับโครงการ เป็นกลไก “ภาคสมัครใจ” มีหน่วยเป็น “ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า” เช่น โครงการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ โครงการผลิตพลังงานความร้อนโดยใช้เชื้อเพลิงชีวมวล โครงการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน โครงการปลูกป่าไม้และอนุรักษ์ป่า เป็นต้น ซึ่งต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์และกระบวนการของแต่ละมาตรฐานในการทำโครงการ (กรณีของประเทศไทย คาร์บอนเครดิต คือ ใบรับรองปริมาณความสำเร็จในโครงการลด/กักเก็บก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินโครงการ T-VER ที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบ ทวนสอบจากผู้ประเมินภายนอก และได้รับการรับรองจากคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก) และเมื่อได้รับรองผลการลดก๊าซเรือนกระจกหรือที่เรียกว่าคาร์บอนเครดิตแล้ว จากนั้นผู้พัฒนาโครงการจึงจะสามารถนำคาร์บอนเครดิตนี้ไปขายในตลาดคาร์บอนได้ ผู้ซื้อคาร์บอนเครดิตส่วนใหญ่เป็นบริษัทหรือบุคคลที่ทำ CSR โดยซื้อคาร์บอนเครดิตไปใช้ในการชดเชยเพื่อบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutral ทั้งในระดับองค์กร ผลิตภัณฑ์ การจัดประชุม/สัมมนา หรืองานอีเวนต์ และระดับบุคคล ส่วนผู้ขายหรือผู้พัฒนาโครงการลดก๊าซเรือนกระจก จะเป็นองค์กรภาครัฐ เอกชน สาขาการผลิต/บริการใดก็ได้ หรืออาจจะเป็นบุคคลหรือกลุ่มบุคคลก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับความสนใจในการเข้าร่วมทำโครงการของผู้พัฒนาโครงการ หากไม่ทำก็ไม่มีบทลงโทษ
.
#สิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Allowance) คือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่อนุญาตให้ปล่อยได้ภายใต้ระบบการซื้อขายสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emission Trading Scheme: ETS) หรือ Cap and Trade ซึ่งเป็นกลไกประเภท “Site Based” หรือ “Facility Based” ในระดับองค์กรที่ใช้กำกับดูแลผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ของประเทศให้ลดก๊าซเรือนกระจกตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ โดยภาครัฐส่วนใหญ่จะเป็นผู้กำกับดูแลระบบ ETS จะใช้กลไกดังกล่าวใน “ภาคบังคับ” ซึ่งรัฐบาลจะจัดสรรสิทธิฯ ให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงๆ พร้อมกับเป้าหมายในการควบคุมปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งหากโรงงานปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่าสิทธิฯ ที่ตนเองมี จะต้องไปซื้อสิทธิจากโรงงานที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำกว่าเป้าหมาย หรือ สิทธิฯ ที่ได้รับนั้นเอง (ในทางกลับกันโรงงานที่มีสิทธิฯ เหลือ สามารถขายสิทธิฯ ได้) เพราะหากองค์กรที่อยู่ในระบบ ETS ไม่สามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ และไม่ส่งมอบสิทธิฯ คืน (Surrender) ต่อผู้กำกับดูแลระบบ ก็จะมีบทลงโทษ เช่น สหภาพยุโรป (EU-ETS) ปรับ 118.27 US$/tCO2eq สหราชอาณาจักร (UK-ETS) ปรับ 112.72 US$/tCO2eq และประเทศเกาหลีใต้ (Korea ETS) ปรับ 86 US$/tCO2eq ดังนั้น การมีบทลงโทษปรับจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลต่อราคาของสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สูงกว่าราคาซื้อขายคาร์บอนเครดิต
.
#TGO #CarbonCredit #Allowance #EmissionTradingScheme #TVER #ETS

บทความโดย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)

Write a comment